The Power Of Creativity Lifestyle ทินเนอร์คืออะไร มีกี่ชนิด

ทินเนอร์คืออะไร มีกี่ชนิด

ทินเนอร์คืออะไร มีกี่ชนิด post thumbnail image

การทำงานเกี่ยวกับไม้หรือเหล็ก อุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ทินเนอร์ ที่เป็นเหมือนกับส่วนประกอบหลักของการใช้งานสีต่างๆ ในการทา โดยหน้าที่หลักของทินเนอร์ก็คือจะเป็นตัวช่วยในการละลายสีที่ใช้ให้มีความเจือจางลง เพราะสีน้ำมันส่วนใหญ่จะมีความหนืดสูงมาก ไม่สามารถใช้งานได้ทันที ต้องมีตัวทำละลายเข้ามาละลายก่อน จึงจะใช้งานได้ 

ซึ่งคุณสมบัติของตัวทำละลายนี่เอง ที่ทำให้เกิดความแตกต่างของทินเนอร์ขึ้น ทินเนอร์จึงแบ่งออกเป็นได้หลายประเภท เพื่อให้เหมาะกับงานแต่ละประเภทนั่นเอง เราจะมาดูว่าในท้องตลาด มีทินเนอร์ประเภทไหนบ้าง จะได้เลือกใช้งานได้ถูกต้อง 

ประเภทของทินเนอร์ 

1.ทินเนอร์สำหรับล้างทำความสะอาด  

ทินเนอร์ประเภทนี้เป็นทินเนอร์ที่ราคาถูก ส่วนผสมหลักจะเป็นส่วนผสมในการทำละลายทั้งสิ้น เหมาะกับการนำมาใช้ล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ อย่างเช่นแปลงทาสี หรือสีที่เปื้อนตามมือผู้ใช้งาน บางครั้งผู้ใช้ก็อาจจะเอามาผสมกับสีด้วยก็ได้เช่นกัน แต่คุณภาพอาจจะไม่ดีพอ

 

2.ทินเนอร์เช็ดคราบ 

เป็นทินเนอร์ที่เอาไว้สำหรับทำความสะอาดเช่นกัน โดยคราบที่เช็ดส่วนใหญ่จะเป็นคราบสกปรก ที่มีส่วนผสมของน้ำมันด้วย อย่างเช่นคราบน้ำมันเครื่อง คราบาจารบี คราบน้ำมัน คราบเหล่านี้เราไม่สามารถใช้น้ำธรรมดาล้างออกได้ ต้องใช้ทินเนอร์เท่านั้นเป็นตัวช่วย และทินเนอร์ชนิดนี้จะไม่เหมาะกับการนำไปผสมกับสีเพื่อใช้ทา เพราะเป็นทินเนอร์ที่ไม่ละลายเข้ากับสีนั่นเอง 

Lacquer Thinner Chemical Blending, Warehousing & Transport

3.ทินเนอร์สำหรับผสมสี 

เป็นทินเนอร์ที่ใช้สำหรับผสมกับสีเพื่อใช้งานทา หรือพ่นโดยตรงทินเนอร์ที่ใช้ในการผสมสีนั้น จะมีราคาสูงกว่าทินเนอร์ทั่วไปอย่างเช่นทินเนอร์สำหรับทำความสะอาด ข้อสำคัญในการใช้งานทินเนอร์ประเภทนี้ก็คือ เวลาผสมต้องผสมให้ได้อัตราส่วนที่เหมาะสม หากผสมในอัตราส่วนที่ผิด ก็อาจจะทำให้สี่ได้ผิดเพี้ยนไปด้วย ดังนั้นผู้ใช้ต้องเจ้าใจขอัตราส่วนการผสมให้ดีเสียก่อน 

4.ทินเนอร์สำหรับทำให้แห้งช้า 

เป็นทินเนอร์ที่ใช้ทำให้เกิดการแห้งที่ช้ากว่าเดิม จะมีส่วนระกอบหลักเป็นตัวทำละดายกลุ่มไฮโดรคาบอน จะเรียกทินเนอร์ชนิดนี้ว่าน้ำมันสนก็ได้ สำหรับงานที่เหมาะสมกับทินเนอร์ประเภทนี้ก็คือ งานพ่นหรืองานที่ต้องอาศัยเวลาในการตกแต่ง อย่างเช่นงานศิลปะ เป็นต้น 

5.ทินเนอร์สำหรับเจือจางแล็คเกอร์ 

เป็นทินเนอร์ที่เอาไว้เป็นตัวทำละลายแล็คเกอร์ที่มีความหนืด ให้ใช้งานได้สะดวก คุณสมบัติอีกอย่างก็คือจะทำให้เกิดการระเหยที่ดียิ่งขึ้น ทำให้ให้ได้คุณภาพของงานที่ดีกว่า  

ข้อแนะนำเพิ่มเติม 

จะเห็นว่าทินเนอร์แต่ละประเภทนั้น มีวิธีการใช้งานแตกต่างกัน ให้ประโยชน์ไม่เหมือนกัน ฉะนั้นในการเลือกใช้งานควรเลือกใช้งานทินเนอร์ ราคาให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภทเท่านั้น 

หากคุณยังไม่แน่ใจว่าทินเนอร์ประเภทไหนเหมาะกับงานอะไร ก็ควรสอบถามกับทางร้านก่อนที่จะซื้อ เพื่อที่จะได้ซื้อแล้วไม่พลาด จนทำให้เกิดความเสียหายกับชิ้นงาน เป็นต้น หรือไม่ก็ลองหาวิธีการใช้งานในอินเตอร์เน็ตเพิ่มเติมก่อนก็ได้ 

Related Post

อบรม 5ส ได้ที่ไหน เลือกศูนย์อบรมแบบไหนดีอบรม 5ส ได้ที่ไหน เลือกศูนย์อบรมแบบไหนดี

สะสาง สะดวก สะอาด สุขลักษณะ และสร้างนิสัย พฤติกรรมเหล่านี้ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญเลยคือทำให้เกิดความปลอดภัย องค์กรเองก็ได้รับผลประโยชน์จากการส่งพนักงานเข้ารับการอบรม 5ส เมื่อพนักงานรู้และเข้าใจในหลักการ 5ส ต้นทุนการผลิตลดลง อุบัติเหตุลดลง ผลกำไรขององค์กรเพิ่มสูงขึ้น หากท่านใดสนใจเข้ารับการอบรม 5ส หรือนายจ้างต้องการส่งพนักงานเข้ารับการอบรม มองหาศูนย์อบรมความปลอดภัย เลือกศูนย์อบรมที่ดีที่สุด  1.เชื่อถือได้  เลือกศูนย์อบรมความปลอดภัยที่เปิดหลักสูตรอบรม 5ส พิจารณาเลือกศูนย์อบรมที่เชื่อถือได้ ศูนย์อบรมที่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้รับมาตรฐาน ISO 9001 : 2015 หรือศูนย์อบรมที่ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าชั้นนำ

บริการกำจัดปลวก

3 ข้อความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “บริการกำจัดปลวก” ที่เราจะคลายข้อสงสัย3 ข้อความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “บริการกำจัดปลวก” ที่เราจะคลายข้อสงสัย

ปัจจุบันนั้น “บริการกำจัดปลวก” นั้นกำลังมีมากขึ้นอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากว่า ปัญหาของปลวกที่มากขึ้นทำให้มีบริการกำจัดปลวก มากขึ้นตามมาด้วยเช่นกันดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีเรื่องเข้าใจผิดสำหรับบริการกำจัดปลวกด้วยเช่นกันดังนั้นเราจึงอยากจะมานำเสนอกับ ..ข้อ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “บริการกำจัดปลวก” กันนะครับ ไปลองดูดีกว่าว่าจะมีอะไรบ้าง ?  บริษัทกำจัดปลวกไม่ได้ใช้สมุนไพรในการกำจัดปลวก  การกำจัดปลวกนั้นถือแม้จะเราจะเห็นว่ามีการใช้สมุนไพรในการกำจัดปลวก ซึ่งจริง ๆ แล้วสมุนไพรนั้นจะได้ผลจริง แต่ถ้าหากว่ารังปลวกนั้นมีขนาดใหญ่เกินไป นั้นการกำจัดปลวกด้วยสมุนไพรเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นบริษัทกำจัดปลวกจึงเลือกใช้สารเคมีมากกว่าในการกำจัดปลวก   กำจัดปลวกเหมือนกัน ราคาถูกกว่าก็ใช้ได้  อีกข้อที่มักเข้าใจผิดกันเลยนั้นคือ “กำจัดปลวกเหมือนกันก็ไม่เห็นต้อเลือกบริการที่แพงกว่าเลย” ใช่ครับการเลือก บริการกำจัดปลวก นั้น ถึงจะกำจัดปลวกเหมือนกัน แต่ในราคาที่ต่างย่อมมีความแตกต่างอย่างแน่นอน ซึ่งความแตกต่างนั้นคือ สารเคมีที่แตกต่างกันดังนั้นการเลือกบริการที่มีราคาสูงกว่า ความน่าเชื่อถือนั้นก็มากกว่า และมีโอกาสที่จะกำจัดปลวกได้มากกว่านั้นเอง  

ประกันภัยรถยนต์ 2+

ชนิดของประกันภัยรถยนต์ชนิดของประกันภัยรถยนต์

ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับการทำประกันเป็นอย่างมากโดยเฉพาะประกันรถยนต์ เนื่องจากว่าปัจจุบันนี้ผู้คนขับรถยนต์ส่วนตัวกันเป็นส่วนใหญ่จึงทำให้คนเหล่านี้มีความต้องการในการทำประกันรถยนต์ ซึ่งประกันรถยนต์คือการที่เรานำเงินไปจ่ายให้บริษัทประกันเพื่อแลกกับความคุ้มครองในกรณีเกิดการเสียหายกับรถยนต์ของเรา โดยประกันรถยนต์นั้นก็สามารถแบ่งออกได้หลายประเภท ดังนั้นในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับประเภทหรือชนิดของประกันรถยนต์กันว่ามีประกันรถยนต์แบบไหนกันบ้าง  ชนิดของประกันภัยรถยนต์  ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 เป็นประกันภัยรถยนต์ประเภทหนึ่งที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก และเหมาะสำหรับผู้ใช้รถทุกประเภทโดยฉพาะผู้ที่หัดขับรถ หรือมือใหม่ขับรถนั่นเอง เนื่องจากว่าประกันรถยนต์ชั้น 1 นั้นมีความคุ้มครองที่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นรถชน รถเกิดอุบัติเหตุ รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม ประกันชั้น 1 ก็คุ้มครอง ถึงแม้ว่าเราจะขับชนแบบมีคู่กรณีหรือไม่มีคู่กรณีก็คุ้มครอง ซึ่งเหมาะเป็นอย่างมากกับมือใหม่หัดขับรถ หรือผู้ที่ออกรถยนต์ป้ายแดงที่ไม่ต้องการให้รถเป็นริ้วรอยขีดข่วนใด ๆ     ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 เป็นประกันรถยนต์ที่มีความคุ้มครองรองจากประกันชั้น 1 ลงมา ซึ่งประกันรถยนต์ชั้น 2 นั้นจะให้ความคุ้มครองคล้ายกับประกันรถยนต์ชั้น 1 แต่ต่างกันตรงที่ประกันรถยนต์ชั้น 2 จะไม่มีการคุ้มครองในส่วนของผู้เอาประกัน นั่นหมายความว่าประกันรถยนต์ชั้น 2 นั้นคุ้มครองเฉพาะส่วนของคู่กรณีเท่านั้น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้มีการพัฒนาจากประกันรถยนต์ชั้น 2 มาเป็นประกันรถยนต์อีกประเภทหนึ่ง นั่นคือประกันภัยรถยนต์ 2+ โดยประกันภัยรถยนต์ 2+ นั้นจะให้ความคุ้มครองเหมือนประกันภัยรถยนต์ชั้น 2 แต่ต่างกันตรงที่ประกันภัยรถยนต์ 2+ จะคุ้มครองในส่วนของผู้เอาประกันด้วย นั่นหมายความว่าหากเกิดเหตุรถชนกันขึ้น ประกันรถยนต์ 2+ จะคุ้มครองทั้งฝั่งที่เป็นรถของผู้เอาประกันภัยและฝั่งที่เป็นรถขอคู่กรณีด้วยเช่นกัน ซึ่งถือได้ว่าประกันภัยรถยนต์ 2+ นั้นให้ความคุ้มครองได้ใกล้เคียงกับประกันรถยนต์ชั้น 1 เป็นอย่างมาก  ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 ประกันรถยนต์ประเภทนี้จะให้ความคุ้มครองเฉพาะส่วนของคู่กรณีเท่านั้นแบบเดียวกับประกันรถยนต์ชั้น 2 แต่ต่างกันตรงที่ประกันรถยนต์ชั้น 3 นั้นจะไม่มีการคุ้มครองในส่วนของรถหาย ไฟไหม้ จึงทำให้ประกันประเภทนี้มีราคาถูกที่สุด  เราจะเห็นว่าประกันรถยนต์นั้นมีหลากหลายประเภทให้เลือกซื้อ